เผยทุกเคล็ดลับช่วยคุณมั่นใจมากขึ้นในการสื่อสารฝึกพูดภาษาอังกฤษฝึกฟังภาษาอังกฤษ แบบไหนให้ถูกต้อง แถมตัวอย่างประโยคที่ดีมักจะใช้บ่อยพร้อมแปลความหมายภาษาไทยให้ด้วย น่าสนใจมากๆ รับรองต่างชาติต้องอึงแน่นอน ปัญหาที่หลายคนมักจะเจอคือในสถานการณ์ที่ต้องพูดภาษาอังกฤษจริงๆ บางครั้งเราก็อาจจะนึก ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐาน ไม่ออกขึ้นมาซะอย่างงั้น เลยทำให้เราพูดไม่คล่อง หรือไม่รู้ว่าว่าต้องพูดอย่างไรให้ถูกต้อง ทำอย่างไรให้บาสนทนาได้นานขึ้น….อย่ากังวลมากเพราะรวม xx ประโยคพื้นฐานภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารที่ใช้กันในชีวิตประจำวัน มาให้ได้ลองฝึกกัน โดยจะแบ่งเป็นพาร์ทง่ายๆ ดังนี้
Part1: ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร – ประโยคแนะนำตัว ทำความรู้จัก
ไม่ว่าจะในสถานการณ์แบบไหนก็ตามแต่ตอนแรกๆ ที่คุณอยากจะรู้จักกับใครสักคนคุณก็ต้องถามข้อมูลพื้นฐานอยู่แล้วใช่ไหมคะ เรื่องนี้จะช่วยคุณเข้าใจเกี่ยวกับคนที่คุณกำลังคุยอยู่ดีขึ้นว่าเขาชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ มาจากไหน ทำงานอะไรอยู่ จากข้อมูลเริ่มต้นนี้จะช่วยคุณสามรถขยายบทสนทนาของคุณมาให้ยาวนานมากขึ้น คุณจะมีโอกาสฝึกพูดภาษาอังกฤษและ ฝึกฟังภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น
ต่อไปนี้คือตัวอย่างของประโยคคำถามภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารที่ใช้บ่อยในการท้าทายครั้งแรก
- What is your name? แปลว่า คุณชื่ออะไรคะ
- Where are you from?/Where do you come from? แปลว่าคุณมาจากไหน
- Where do you live? แปลว่า คุณอยู่ที่ไหนคะ
- What do you do? แปลว่า คุณทำงานอะไรคะ
- What do you like doing in your freetime?/ What are your hobbies? แปลว่า คุณมักจะทำอะไรในช่วงเวลาว่าง
เมื่อเราตั้งคำถามให้คนอื่น และรอเขาตอบเราก็ต้องเรียนรู้วิธีการโต้ตอบกลับด้วย เช่นเมื่อเราบอกชื่อเราก็ใช้คำชมด้วยยกตัวอย่างเกี่ยวกับคำชมต่างๆ ที่ชาวต่างชาติใช้บ่อยดังนี้
- Beautiful, Glamorous, Pretty และ Lovely ทั้งสี่คำนี้หมายรวมๆ ว่า สวยงาม
- Handsome, Cute, Rugged และGood-looking, Attractive และ Gorgeous แปลได้ว่าคำชมคนอื่นหน้าตาดีๆ
หรือเมื่อเขาชมเราอะไรสักอย่างเราก็ต้องรู้วิธีการบอกคำว่าขอบคุณ เราสามารถใช้เป็นหลายๆ แบบเช่น
- Thanks, Thanks a lot ขอบคุณมาก
- Cheers.ขอบคุณมาก
- Thank you very much. ขอบคุณมาก
- You’ve made my day. คุณทำให้วันนี้ของฉันเป็นวันที่ดี
- How thoughtful. คุณเป็นคนรอบคอบจังเลย
- That’s so kind of you. คุณดีกับฉันมากเลย
ประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทั่วไปในการเจอกันครั้งแรกเริ่มท้าทายเช่น
- Hello สวัสดีค่ะ
- Hey man สวัสดีแบบสนิทกันมากกว่า
- How’s it going? or How are you doing? ช่วงนี้เป็นไงบ้าง
- What’s up?, What’s new?, or What’s going on? มีอะไรคะ ตอนนี้มีอะไรใหม่ๆ ไหม
- Haven’t seen you for ages. นานแล้วไม่ได้เจอกัน
- Great to see you again. ยินดีที่ได้เจอคุณอีกที่
- Are you Canadian? – คุณเป็นคนแคนาดาใช่ไหมคะ?
- Glad to meet you – ยินดีที่ได้รู้จัก
- I don’t understand English well – ฉันไม่เก่งภาษาอังกฤษมากเท่าไห่ร
- Please speak more slowly – กรุณาพูดช้าๆ ไปหน่อยได้ไหมคะ
- Can you repeat? – พูดย้ำอีกครั้งได้ไหมคะ
- What is this called in English? – คำนี้ในภาษาอังกฤษพูดยังไรคะ
- What does this word mean? – คำนี้หมายถึงว่าอะไร
- Can I help you? – ฉันจะช่วยอะไรคุณได้คะ
- It’s been so long – นานแล้วนะสิ
- Wait a minute –รอแป๊บนะคะ
- Come with me – ไปตามฉัน
- I know it – ฉันรู้แล้ว
- I have forgotten – ฉันลืมไป

Part 2: ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร – ต่อประโยคภาษาอังกฤษแบบเหนื่อยๆ
หลังจากที่รู้จักเกี่ยวกับคนที่คุณกำลังคุยอยู่แบบคราวๆ แล้ว ถ้าอยากต่อบทสนทนาภาษาอังกฤษแบบเนียนๆ คุณสามารถถามละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่คนนั้นชอบทำคืออะไร หรือชอบอาหารแบบไหน ชอบเที่ยวที่ไหนบ้าง แต่อย่าถามเรื่องส่วนตัวมากไปเช่นเรื่องความรัก เรื่องอายุ เรื่องเงินเดือน เพราะมันเป็นเรื่องที่ควรหลีกเลียง
ปกติแล้วคำถามเพื่อช่วยต่อประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารแบบเหนื่อยๆจะไม่มีอะไรนอกจาก 5W1H
- What อะไร
- Why ทำไม
- Who ใคร
- When เมื่อไหร่
- Where ที่ไหน
- How อย่างไร
ประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ตัวอย่างเช่น
- How do you feel about the weather in Thailand? คุณเห็นว่าประเทศไทยยังไงบ้าง
- What is the season in your country now? ตอนนี้ที่ประเทศของคุณคือ ฤดูอะไร
- What is your favorite season? คุณชอบฤดูอะไร
- How long have you been in Thailand? คุณอยู่ประเทศไทยนานหรือยัง
- How many places have you visited in Thailand? คุณได้ไปเที่ยวที่ไหนเมื่อคุณอยู่ไทย
- How many countries have you been?/ How many countries have you traveled to? คุณไปเที่ยวกี่ประเทศแล้วคะ
- Are you on your holiday or business? คุณมาเที่ยวหรือมาทำธุระ
- You travel alone or with your friends? คุณไปคนเดียวหรือไปด้วยกับเพื่อนคะ
- Do you try Thailand food? Is it delicious? คุณลองกินอาหารไทยหรือยัง อร่อยไหมคะ
- How do you think about Thailand and Thailand people? คุณคิดยังไงเกี่ยวกับประเทศไทยและคนไทยคะ
- What about traffic here? การจราจรที่นี่ยังไงคะ
- What are your hobbies? คุณชอบทำอะไร
- Do you like travelling? คุณชอบไปเที่ยวไหม
- Do you like listening to music? คุณชอบฟังเพลงไหม
- What is your favorite singer or band? นักร้องหรือวงดนตรีที่คุณชื่นชอบคืออะไร?
- Do you like sports? คุณชอบกีฬาหรือไม่?

Part 3: ประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารบอกลาที่ใช้แทน ‘Goodbye’
- See you soon. แปลว่า แล้วพบกันนะ (ใช้ลาแบบไม่เป็นทางการ)
- แปลว่า แล้วเจอกัน = See you then. (ใช้ลาเมื่อมีการนัดหมาย เพื่อเจอกันอีกในไม่ช้าหรืออีกครั้ง)
- See you around. แปลว่า แล้วพบกัน (ใช้ลาแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งความหมายโดยรวมคือ แล้วเจอกันใหม่ แต่ไม่มีการนัดหมาย)
- Until the next time. แปลว่า แล้วเจอกันคราวหน้านะ
- Have a nice day. แปลว่า โชคดีนะ วันนี้ขอให้มีความสุข
- Have a good one แปลว่า ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีนะ
- ขอให้มีความสุข Have a nice weekend. (แปลว่า เสาร์- อาทิตย์นี้)
- Have a good trip แปลว่า ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ
- Have a good time.แปลว่า ขอให้มีความสุขนะ
- Take care / Take care of yourself. แปลว่า ดูแลตัวเองด้วย/รักษาตัวด้วย
Continue…
- I must be on my way. แปลว่า ฉันต้องไปแล้ว
- We’d better be off now. แปลว่า เราจะกลับกันแล้วนะ
- Oh, it’s time to go. แปลว่า โอ้ ได้เวลากลับแล้ว / ได้เวลาออกเดินทางแล้ว
- I think it’s time to go. แปลว่า ฉันคิดว่า ได้เวลากลับแล้วนะ
- (or) I think I’d better go. แปลว่า ฉันคิดว่าฉันกลับดีกว่า
- I have to go now. แปลว่า ฉันจะต้องไปแล้วนะ
- Peace หรือ Peace out! แปลว่า ไปก่อนนะ! (เป็นคำแสลงที่ไม่ทางการ)
- I’ll see you sometime. แปลว่า หวังว่าคงจะได้พบคุณอีก (โดยไม่มีการนัดหมายกันล่วงหน้า)
- I’m out / I’m out of here. แปลว่า ไปก่อนนะ (ไม่เป็นทางการ)
- Ok, talk later, I will catch you later แปลว่า เอาไว้คุยกันครั้งหน้านะ แล้วเจอกัน (ใช้ในโอกาสที่คุณเร่งรีบหรือไม่มีเวลาคุย)
- It’s very nice to talk to you. ดีใจมากที่ได้คุยกับคุณ
- Have a nice day. ขอให้วันนี้เป้นวันที่ดีนะ
- Thank for helping me practice English. ขอบคุณที่ช่วยฉันฝึกภาษาอังกฤษ
- Good luck! ขอให้โชคดี
- Take care. ดูแลตัวเองดีๆ นะ
- It is great to meet you: ยินดีมากที่ได้เจอคุณ
- How could I find you ?: ทำยังไงเพื่อเจอคุณอีกที่
- Can I have your telephone number ? ฉันขอเบอร์โทรของคุณหน่อยได้ไหม
ดังกล่าวคือตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารที่มักจะเจอบ่อยเมื่อคุณคุยกับชาวต่างชาคิ คุณอย่าลืมอ่านก่อน จำวิธีการตั้งประโยคเพื่อการใช้งานจริงได้คล่อง คุณสามรถฝึกพูดภาษาอังกฤษกับตัวเองในกระจกเพื่อเตรียมตัวท่าทาง และคำพูดให้ดีๆ ด้วย นอกจากนั้นคุณก็ต้องใช้เวลาเพื่อฝึกฟังภาษาอังกฤษทุกวันด้วย ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง หรือบทสนทนาต่างๆ ก็ตามมันจะช่วยให้คุณมีความก้าวกระโดดในทักษะการฟังกับพูดภาษาอังกฤษ

ยกตัวอย่าง 1
A: Please let me introduce myself? I’m Cheer. ขอแนะนำตัวเองหน่อย ฉันชื่อ Cheer
B: I’m NaNa . Please to meet you. ฉันชื่อ NaNa
A: Are you Australian? คุณเป็นคนออสเตรเลียใช่ไหมคะ
B: No, I am American. ไม่ฉันเป็นคนอเมริกัน
A: Do you like Bangkok? คุณชอบกรุงเทพไหม?
B: Yes, I like it very much. ค่ะ ฉันชอบมันมาก
A: Are you here on vacation? คุณมาที่นี่ในช่วงวันหยุดหรือเปล่าคะ?
B: No, I’m not. I’m here working. ไม่ฉันไม่ใช่. ฉันอทำงานยู่ที่นี่
A: Have you been to Thailand before? คุณเคยไปประเทศไทยมาก่อนหรือยัง
B: No. It’s my first time to come here. ยังค่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันมาที่นี่
A: How long will you stay here? คุณจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหน?
B: A week. 1 สัปดาห์
A : Can you speak Thailand? คุณพูดภาษาไทยได้ไหม?
B: Oh, a little อ้อ.. นิดหน่อย
A: This is my name card นี่คือนามบัตรของฉัน
B: Thank you, and this is my card. ขอบคุณและนี่คือการ์ดของฉัน
Note อื่นๆ ต้องระมัดระวังเมื่อสื่อใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
–ไม่ถามละเอียดมากไปเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวเช่น เรื่องความรัก เรื่องเงินเดือน เรื่องอายุ
-ท่าทางตอนพูดคุยต้องยิ้มแย้ม แจ่มใส แสดงความเป็นมิตร
-ไม่พูดถึงเรื่องศาสนา เรื่องการเมือง หรือเรื่องกฎหมาย
ต่างๆ มั่นใจในตัวเองว่าคุณทำได้ คือคุณชนะได้ห้าสิบเปอร์เซน์แล้วนะคะ ใช้เวลาเพื่อฝึกทักษะการฟังภาษาอังกฤษ และทักษะการพูดภาษาอังกฤษวันละนิด ทำท่าทางมั่นใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส รับรองว่าใครๆ ก็อยากเป็นเพื่อน และคุณกับคุณ การเรียนการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่ต้องการใช้เวลาอยู่แล้ว แต่ถ้าเราเรียนไป แล้วเอามาใช้งานจริงบ่อย ฝึกหัดเยอะเราอาจจะเร็วและดีดว่าที่เราคิด หรือคาดหวังแน่ๆ เราเชื่อว่าคุณทำได้
ดูเพิ่มเติมที่: ฝึกฟังภาษาอังกฤษเเบบกล้วยๆ